มัสยิดอัลญ่ามาอะห์


ม.11 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ 10550   087-0132233



 


 

ประวัติมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่

                   ณ ที่ตำบลคลองด่าน อ.บางบ่อ (บางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ (ราชการในสมัยก่อนนั้นเมื่อมีหนังสือราชการใดๆก็จะตามวงเล็บในหนังสือนั้นๆว่า อ.บางบ่อ (บางเหี้ย)ปัจจุบันนี้ได้งดใช้แล้ว  สถานที่แห่งนี้เองได้ถูกอัลเลาะห์(ซ.บ.)กำหนดให้มีมัสยิดเกิดขึ้นหลังหนึ่งเพื่อเป็นที่ซุหยูดต่อพระองค์ หลังจากปี พ.ศ. 2485 ต่อ พ.ศ.2486 ซึ่งได้มีน้ำท่วมกรุงเทพฯและทั่วไปน้ำท่วมใหญ่จนขนาดที่ว่าสามารถใช้เรือยนต์แล่นไปได้ทั่วๆ ลัดทุ่งนา ลัดบ้านเรือนได้ทุกซอกทุกมุมและเป็นช่วงที่เกิดมหาสงครามเอเชียบูรพา(สงครามญี่ปุ่น) ญี่ปุ่นได้เข้ามาประเทศไทยและใช้เป็นทางผ่านเพื่อทำสงคราม หลังจากสงครามสงบ มัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่แห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2487 โดยที่ครอบครัวพี่น้องมุสลิมจำนวนน้อยๆ 5-6 ครอบครัวได้ประชุมกันเพื่อสร้างมัสยิดขึ้นและในที่สุดก็มีมติเป็นเอกฉันท์ โดยให้ใช้ที่ดินของ(อัลมัรฮูมตอเล็บ  โชติมัน)เป็นที่ตั้งชั่วคราวไปก่อนจนกว่าจะมีที่ถาวรในอนาคต

                    การสร้างมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ครั้งแรกนั้น สร้างโดยการถมที่ดินให้สูงขึ้นจากพื้นเดิมประมาณ 50 เซนติเมตร มีความกว้าง 3 วา 2 ศอก ยาว 4 วา 2 ศอก ใช้ทางจากยาวๆผ่าซีกทำฝาด้านข้างขัดแตะด้วยไม้ใผ่ และมุงหลังคาด้วยจาก ส่วนพื้นมัสยิดก็ทุบดินปรับแต่งให้เรียบ แล้วใช้เสื่อเตย(สมัยนั้นนิยมมาก เนื่องจากเป็นวัสดุที่ผลิตกันได้เองตามบ้าน เสื่อกกยังมีน้อย) ปูบนพื้นทำการละหมาดกันเรื่อยมา ประมาณเวลา 8- 10 ปีซึ่งครั้งต่อมาได้ยกพื้นขึ้นมาโดยมีผู้ให้ยืมไม้กระดานมาใช้ทำพื้นชั่วคราวเขาผู้นั้นคืออัลมัรฮูมฮัจยีซำซุดดีน รอเซ็น

                    ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2495 ได้มีผู้ศรัทธาคือนายซำซู(อยู่บ้านครัว)บริจาคเงินจำนวน 15,000 บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาท)ผู้อาวุโสในขณะนั้นมีอยู่ 3-4 คนคือ อัลมัรฮูมตอเล็บ  โชติมัน อัลมัรฮูมฮัจยีมาลี  กาเทศ อัลมัรฮูมฮัจยีอับดุลเลาะห์ (เวาะยีเลาะห์) อัลมัรฮูมฮัจยีซำซุดีน  รอเซ็นได้ปรึกษาหารือกันและในที่สุด อัลมัรฮูมตอเล็บ  โชติมันได้ตกลงบริจาคที่ดิน จำนวน 2 ไร่เศษให้สร้างมัสยิดถาวร โดยสร้างเป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยาหลังคามุงด้วยกระเบื้อง กว้าง 3 วา 2 ศอก ยาว 4 วา  2 ศอก ใต้ถุนสูงชั้นเดียว ทั้งนี้ได้ย้ายมาจากที่ดินเดิมเคลื่อนมาทางตะวันออกในที่ดินแปลงใหม่ซึ่งติดคลองชลประทาน กว้าง 20 วา ลึกเข้าไปประมาณ 40 วา ต่อมาได้บริจาคที่ดินให้เป็นที่ฝังศพ(กุโบร์)อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดด้านหลังของมัสยิด

ต่อมาลูกๆของ อัลมัรฮูมตอเล็บ  โชติมัน  ได้ร่วมบริจาคให้เป็นที่กุโบร์เพิ่มขึ้นจากเดิม  ซึ่งมีเนื้อที่กุโบร์ 1 งาน และอัลมัรฮูมฮัจยีมาลี  กาเทศได้ร่วมซื้อที่ดินข้างเคียงบริจาคเพิ่มอีก 1 งาน จึงทำให้มีเนื้อที่กุโบร์กว้างขึ้นอีก  รวมเป็นเนื้อที่อุทิศทั้งหมด 3 ไร่ 1 งาน 12 ตารางวา(รวมทั้งเนื้อที่มัสยิดและกุโบร์รวมกัน)กุโบร์ในปัจจุบันมีรั้วรอบกั้นเป็นเขตชัดเจน  ดำเนินการดูแลบำรุงรักษาโดยฮัจยีอิสมาแอล  โชติมัน

                หลังจากสร้างมัสยิดเป็นอาคารไม้ทรงปั้นหยาหลังคามุงกระเบื้องแล้วได้ประกอบศาสนกิจเป็นปกติจนต่อมา พ.ศ. 2498 จึงได้ประชุมกันขอจัดตั้งเป็นมัสยิดถาวร โดยจดทะเบียนเมื่อ  24 มกราคม 2498 ใช้ชื่อมัสยิดว่า  อัลย่ามาอ่าตุ้ล อินซานุลมุสลิม  มีอัลมัรฮูมฮัจยีมาลี  กาเทศ เป็นอิหม่าม นายสนั่น  ปานทอง เป็นคอเต็บและนายซำแอน(เดวิด)  โชติมัน เป็นบิหลั่นได้จดทะเบียนมัสยิดเลขที่ 7 หมู่ 11 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

              ต่อมา พ.ศ. 2514 มีการแปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารมัสยิด  โดยมีอัลมัรฮูมฮัจยีมาลี  กาเทศ เป็นอิหม่าม นายสุมิตร  โชติมัน เป็นคอเต็บและอัลมัรฮูมฮัจยีซีมเบ๊ะกี เป็นบิหลั่นและต่อมามีผู้อาวุโสหลายคนได้ประชุมกันเพื่อจะขยายมัสยิดให้กว้างขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากมีพี่น้องมุสลิมที่เป็นสัปปรุษเพิ่มจำนวนขึ้น  ในที่สุดวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2515 ได้ทำการวางศิลารากฐานอาคารมัสยิดหลังใหม่  โดยท่านจุฬาราชมนตรี ต่วน  สุวรรณศาสน์ ครั้งนี้สร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 4 วา (วัดรอบในไม่คิดชานลูกกรงรอบนอก) ยาว 8 วา ซุโต๊ะห์อีก 3วา รวมเป็นตัวอาคารยาว 11 วา

             ต่อมาได้มีการสร้างเสาบังสูงประมาณ 20 เมตรขึ้น  โดยได้จากเงินบริจาคของพี่น้องในชุมชนเองและพี่น้องทั่วๆไป ครั้งแรกได้ยอดเงินรวม 80,000 บาท(แปดหมื่นบาท) เริ่มทำการก่อสร้างต่อมามีผู้มีจิตศรัทธารายใหญ่บริจาคสนับสนุน เพิ่มอีกจนแล้วเสร็จคือ (อัลมัรฮูมะห์สมวงศ์  วงศ์พานิช)บ้านอยู่พระประแดง ตระกูลวงศ์พานิช ได้ช่วยเหลือค้ำจุนมาโดยตลอดจนแล้วเสร็จใช้เงินก่อสร้างรวม 4,000,000 ล้านบาท

                ต่อมา พ.ศ.2527  ได้ประชุมกันเพื่อเปลี่ยนชื่อมัสยิดให้เหมาะสม เนื่องจากทางราชการจะเขียนชื่อมัสยิดคลาดเคลื่อนบ่อยๆเพราะเป็ภาษาอาหรับและยาวมาก ซึ่งประกอบกับขณะนั้นมีการแต่งตั้งอิหม่ามคนใหม่มาดำรงตำแหน่งแลัวคืออัลมัรฮูมฮัจยีมูซอ  สังข์สว่าง เป็นอิหม่าม นายสุมิตร  โชติมัน เป็นคอเต็บและอัลมัรฮูมฮัจยีซีมเบ๊ะกี เป็นบิหลั่น ที่ประชุมมีมติให้ใช้ชื่อเดิมแต่ง่ายๆโดยเปลี่ยนเป็น มัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ มีการดำเนินถูกต้องตามระเบียบราชการทุกอย่าง มีที่ดินโอนเป็กรรมสิทิ์ให้เรียบร้อย มีสถานที่ฝังศพ(กุโบร์) มีอาคารมัสยิดที่ใช้งานได้สะดวก มีที่อาบน้ำละหมาดเป็นสัดส่วนมีห้องน้ำมีอาคารเอนกประสงค์ไว้สำหรับทำกิจกรรม มีการสอนศาสนา อัลกุรอ่านฟัรดูอีนและมีแท๊งค์ขนาดใหญ่ไว้สำหรับเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในฤดูแล้งอีกด้วย


                                   ที่มา http://www.islamspk.com/masjid/SPK0008.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ โปรดยอมรับนโยบายคุกกี้เพื่อประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดของท่าน ท่านสามารถศึกษาวิธีการตั้งค่าการควบคุมคุกกี้ของท่านผ่านนโยบายการใช้คุกกี้ของเราที่นี่

นโยบายการใช้คุกกี้ของเราที่นี่ ยอมรับ