ไทย–ซาอุฯ จับมือครั้งใหญ่! เปิดประตูการค้า ดันสินค้าไทยบุกตลาดตะวันออกกลาง
99,999
9 ธ.ค. 2568
ถือเป็นก้าวสำคัญของเศรษฐกิจไทย เมื่อ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ เดินทางเยือนกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้าง “พันธมิตรทางการค้า” ที่แข็งแกร่งกับ ดร.มาญิด อัลกอเศาะบี รมว.พาณิชย์ซาอุฯ
การหารือครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะ ซาอุดีอาระเบียประกาศพร้อมผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาด GCC แบบจัดเต็ม!
โดยเฉพาะ ข้าว–อาหารฮาลาล–ผลไม้–วัตถุดิบคุณภาพสูง ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย และตลาดซาอุฯ ต้องการอย่างมากในขณะนี้
ไฮไลต์ความร่วมมือ “ไทย–ซาอุฯ” รอบนี้
ซาอุดีอาระเบียเสนอให้ไทย ตั้ง “Thai Village” แบบถาวร เพื่อโชว์สินค้า–บริการไทยใจกลางตะวันออกกลาง
สนับสนุนสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดซาอุฯ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเกษตร
วางไทยเป็น “แหล่งความมั่นคงทางอาหาร” ให้ซาอุดีอาระเบีย
เตรียมจัดทำแผนความร่วมมือด้านบริการ เช่น
– ท่องเที่ยว
– ร้านอาหาร
– สปา
– สุขภาพ
– การแลกเปลี่ยนแรงงานฝีมือ เช่น พ่อครัว–พนักงานบริการ
เดินหน้าร่วมมือภายใต้นโยบายใหญ่ “Saudi Vision 2030” ที่ต้องการลดการพึ่งพาน้ำมันและขยายเศรษฐกิจท่องเที่ยว
ทำไมดีลนี้สำคัญต่อไทย?
ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของไทยในตะวันออกกลาง มูลค่าการค้ารวมปีที่แล้วสูงถึง 7,757 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2568
ขณะที่สินค้าดาวรุ่งที่ส่งออกได้ดีมาก ได้แก่
รถยนต์และชิ้นส่วน
ผลิตภัณฑ์ไม้
ผลิตภัณฑ์ยาง
อาหารทะเลกระป๋อง
เครื่องจักรและอุปกรณ์
ดีลใหม่นี้จะยิ่ง เพิ่มโอกาสร้านอาหารไทย–อาหารฮาลาล–ธุรกิจบริการ ให้เติบโตในตลาดมุสลิมขนาดใหญ่กว่า 400 ล้านคนในภูมิภาค
คำกล่าวจาก รมว.พาณิชย์ไทย
“ซาอุดีอาระเบียคือประตูสำคัญสู่ตลาดตะวันออกกลาง ไทยพร้อมใช้ศักยภาพด้านอาหาร บริการ และแรงงานฝีมือ ร่วมยกระดับเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ”
สรุปสั้นๆ
5 ธันวาคม 2568 ไม่ใช่แค่การจับมือระหว่างสองประเทศ แต่คือ ก้าวใหญ่ของเศรษฐกิจไทยสู่ตะวันออกกลาง เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการไทยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอาหาร–เกษตร–บริการ–ฮาลาล
